ชายผู้มีแพชชั่นเต็มเปี่ยม อันโตนิโอ คอนเต้

ชายผู้มีแพชชั่นเต็มเปี่ยม อันโตนิโอ คอนเต้


มีน้อยคนนักที่มักจะประสบความสำเร็จในทุก ๆ สิ่งที่ตัวเองลงมือทำ เพียงแต่คน ๆ นั้น จะต้องมีความทุ่มเท ไม่ใช่แค่เพียงพละกำลังกายและสติปัญญา แต่ต้องเต็มไปด้วยแพชชั่นในการขับเคลื่อนชีวิต และสุดท้ายความกระหายนั้นก็จะสามารถนำทางเราให้ไปถึงฝันได้


อันโตนิโอ คอนเต้ คือตัวอย่างของการเป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยแพชชั่นอยู่เสมอ ลีลาท่าทางการกระตุ้นลูกทีมอยู่ข้างสนาม ด้วยความดุดัน บางครั้งเขาก็ตะโกนแหกปากอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา 90 นาทีเต็ม และสิ่งเหล่านี้ก็ได้สร้างภาพจำ ให้เขากลายเป็นกุนซือจอมโหด แต่นั่นก็แค่ภาพลักษณ์ภายนอกที่สื่อต่าง ๆ อยากให้ออกมาเป็นแบบนั้น ถึงแม้ว่าจะโหดและเนี้ยบขนาดไหน สุดท้ายแล้ว คอนเต้ ก็ยังคงเป็นผู้จัดการทีมที่นักเตะทุกคนรักอยู่ดี


ในสมัยที่เป็นนักเตะ คอนเต้ เองก็ถือว่าเป็นผู้เล่นอเนกประสงค์ ตำแหน่งประจำคือกองกลางในสไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ และสามารถคว้าแชมป์มากมายตลอดระยะเวลาการลงเล่น โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากทีมในบ้านเกิดอย่าง ลีเช่ และมาแจ้งเกิดกับทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง ยูเวนตุส ซึ่งที่นี่เองที่เขาสามารนำถ้วยไปประดับไว้ในตู้โชว์ได้ถึง 15 ใบ ตลอดการลงเล่นกว่า 400 นัด


เขาประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2004 และใช้เวลาร่ำเรียนตำราการคุมทีมเป็นระยะเวลา 2 ปี ก่อนที่จะเริ่มงานแรกให้กับสโมสรเล็ก ๆ ในลีกล่างอย่าง อาเรซโซ่ ก่อนที่จะย้ายมาคุมทีมบารี่ และพาทีมระดับเล็กเลื่อนชั้นขึ้นมาถึง ดิวิชั่นสูงสุดอย่าง เซเรีย อา ได้สำเร็จ และนั่นก็คือถ้วยรางวัลใบแรกในฐานะการเป็นผู้จัดการทีมของเขา


ความเก่งกาจในการเป็นผู้จัดการทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ เริ่มต้นจริง ๆ จัง ๆ มาจากการได้รับโอกาสคุมทีมที่ตัวเองเคยสร้างชื่อมาอย่าง ม้าลายยูเวนตุส ในปี 2011 คอนเต้เริ่มเข้ามาเปลี่ยนแปลงยุคสมัยอันตกต่ำของทีมยักษ์ด้วยการพาทีมที่ก่อนหน้านั้นจบได้เพียงอันดับที่ 7 ของฤดูกาล ทีมที่ตอนนั้นใคร ๆ ก็ต่างมองว่า ไม่ได้เป็นทีมยักษ์ใหญ่ชั้นนำของลีคอีกต่อไป 


แต่ด้วยแพชชั่นที่เต็มเปี่ยมและแท็คติกการวางแผนที่ยอดเยี่ยม คอนเต้ สามารถชุบชีวิตม้าลายตัวนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวา ควบกลับมาครองความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์ลีคสูงสุดได้ถึง 3 สมัยติดต่อกัน และตัวเขาเองก็ยังได้รับรางวัลโค้ชยอมเยี่ยมควบคู่ไปด้วยถึง 3 สมัยซ้อน นี่คือการประกาศความยิ่งใหญ่กับทีมเดิมแต่ในฐานะใหม่ หลังจากพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย คอนเต้ จึงมองหาความท้าท้ายใหม่ ๆ โดยเลือกรับงานไปคุมทีมชาติอิตาลี ลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปในปี 2016 ด้วยผลงานสุดโหดไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือกถึง 10 นัด ก่อนจะผิดหวังแพ้จุดโทษตกรอบรองไปอย่างน่าเสียดาย


ก่อนที่จะพาตัวเองบินข้ามมาประกาศความยิ่งใหญ่ ในกรุงลอนดอนบนเกาะอังกฤษกับสโมสรเชลซี ที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ ตัวเขาเริ่มต้นพาสิงโตน้ำเงินครามเก็บคะแนนได้ดีกว่าทีมอื่น ๆ ในลีค และนำแบบทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น ด้วยการเก็บชัยชนะได้ถึง 13 นัด และเป็นกุนซืออิตาลีคนเดียวที่สามารถคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีคถึง 3 เดือนซ้อน สุดท้ายเขาก็พาทีมคว้าแชมป์ได้ในขณะที่ยังเหลือโปรแกรมฟาดแข้งอีก 2 นัด


และเมื่อเขาบินกลับมาที่ อินเตอร์ มิลาน ในปีแรกความทุ่มเทบวกกับความพยายาม พร้อมแพชชั่นที่ตัวเขามีมาเสมออย่างเต็มเปี่ยม คอนเต้ สามารถปลุกชีพงูใหญ่ที่หลับใหล ให้ฟื้นขึ้นมาจบที่อันดับที่ 2 ก่อนที่ในปีถัดมา คอนเต้ พาเนซัสซูรีผงาดขึ้นมาคว้าแชมป์และได้หยุดสถิติของทีม ยูเวนตุส ซึ่งก็เป็นผลงานที่ตัวเองเคยสร้างเอาไว้ในกาลก่อน 

คอนเต้เปรียบเสมือนคนที่มีทั้งด้านบู๊และบุ๊นอยู่ในคน ๆ เดียวกัน เรามักจะเห็นความโผงผางโวยวาย และแอ็คชั่นต่าง ๆ ในยามที่เขายืนบัญชาเกมอยู่ข้างสนาม แต่ในเวลาที่ทีมลงฝึกซ้อม เขาก็พร้อมจะสลัดคราบความเคร่งขรึม เพื่อให้ตัวเองเข้าถึงลูกทีมได้โดยง่าย บ่อย ๆ ครั้งมักจะเห็นรอยยิ้มและความขี้เล่น เวลาที่เขาไม่ได้คุมเกม และนั่นแหละก็คือหนทางแห่งความสำเร็จส่วนหนึ่งของผู้ชายที่มีแพชชั่นเต็มเปี่ยม


จากประวัติการคุมทีมที่ผ่านมา ไม่ว่า คอนเต้ จะไปทีมไหน เขาจะพกพาแพชชั่นที่เต็มเปี่ยมของตัวเองไปด้วยเสมอ นั่นจึงเป็นสิ่งที่การันตีเปอร์เซนต์ของความสำเร็จในระดับหนึ่ง


และเมื่อเขากลับมายังกรุงลอนดอนอีกครั้ง พร้อมกับความหวังที่จะชุบชีวิตทีมที่ไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ยาวนานอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ เหล่าสาวกและแฟนบอลต่างก็รอลุ้นและรอคอยอย่างมีความหวังว่า ความทุ่มเทที่มีอย่างเต็มที่ของชายคนนี้จะสร้างความอัศจรรย์ให้กับทีมใหม่ที่เขาเข้ามาได้หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ และที่ไม่ต้องคาดเดาอะไรเลยก็คือ ความสนุกที่แฟนบอลพรีเมียร์ลีคจะได้เห็นแอคชั่นต่าง ๆ ของเขาอีกครั้ง.


ดูข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : Goalstorm








ความคิดเห็น